วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รู้หรือไม่ "คนเราทำไมต้องกระพริบตา"




ศ. นพ. เสนอ  อินทรสุขศรี ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าการกะพริบตาเป็นวิธีการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ตา ซึ่งเป็นการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกาย  เวลากะพริบตาน้ำตาจะได้เคลือบและแผ่ไปได้ทั่วผิวลูกตา ทำให้ผิวตาชุ่มชื้นได้ตลอดเวลา ตาจะได้ไม่แห้งและไม่แสบตา เราจึงต้องกะพริบตาอยู่ตลอดเวลา
      โดยเฉลี่ยคนเรากะพริบตาทุก ๆ 2-3 วินาที เวลาที่ตั้งใจมองเพ่งสิ่งใด เช่น เวลาอ่านหนังสือ  กว่าจะกะพริบตาครั้งหนึ่งก็ใช้เวลานานกว่าปรกติ  ตามสถิติมีผู้สังเกตว่า เวลาอ่านหนังสือ  ผู้หญิงจะใช้เวลา    วินาที จึงจะกะพริบตาครั้งหนึ่ง ส่วนผู้ชายใช้เวลา ๑๐-๑๒ วินาที จึงจะกะพริบตาครั้งหนึ่ง ความแตกต่างกันนี้ไม่อาจอธิบายได้ ผู้ทำสถิติตั้งข้อสังเกตว่า  ผู้ชายอาจทนเพ่งอ่านหนังสือได้นานกว่าผู้หญิง
      อย่างไรก็ตาม คนเราจะต้องกะพริบตาตลอดเวลาเสมอถ้าจะฝืนไม่กะพริบตาเลย เพียงนาน ๑๐-๑๒ วินาทีก็จะแสบตาเนื่องจากน้ำตาระเหยแห้งไป และด้านหน้าลูกตาแห้งหรือชุ่มชื้นไม่ทั่วกัน
      มีบางคนกะพริบตาถี่ ๆ เมื่อเกิดอารมณ์ผิดปรกติบางอย่างเช่น หวาดระแวง ละอาย ขวยเขิน มีความผิดอยู่ในใจ ตื่นเต้น โกรธ ฯลฯ บางคนกะพริบตาถี่ ๆ จนเป็นนิสัยก็มี

     ผลการวิจัยชี้ว่าตลอดชีวิตเราต้องกระพริบตาถึง 250 ล้านครั้งทีเดียว เพราะเราจะกระพริบตาทุกๆ 6 วินาที ทำให้กล้ามเนื้อตาเคลื่อนไหวประมาณ 10,000 ครั้งต่อวัน
ถ้าเปรียบกับการทำงานของกล้ามเนื้อขาแล้วจะเท่ากับวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อวัน แถมยังพบว่าผู้หญิงจะกระพริบตามากกว่าผู้ชาย 2 เท่า
แต่แพทย์แนะนำว่าเราควรจะกะพริบตาให้ได้ 12 ครั้งต่อ 1 นาที

ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี

Credit สนุกดอทคอม ภาพและเรื่องบางส่วนจสก toodcheefha.exteen.com
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น